http://www.csrcom.com/
True ปลูกปัญญา

อะไรควร-ไม่ควร ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดย : ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ

บทความ

อะไรควร-ไม่ควร ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย  โดย : ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ

หากองค์กรที่เป็นแกนในการให้ความช่วยเหลือหลัก ขาดความสามารถบริหารจัดการด้วยการวางกลไกและระบบรองรับให้มีประสิทธิภาพ ก็อาจก่อให้เกิดปัญหา

จนถึงขณะนี้ วิกฤติการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาเบาบางลง พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น ผู้ได้รับผลกระทบมีจำนวนมากขึ้น ขณะเดียวกัน น้ำใจและความช่วยเหลือจากผู้ที่มีจิตอาสาและองค์กรในภาคต่างๆ ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย

การเข้าช่วยเหลือจากอาสาสมัครมีอย่างท่วมท้น ไม่แพ้ปริมาณน้ำที่เอ่อท่วมแม้แต่น้อย ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า คนไทยจะสามารถฝ่าวิกฤตการณ์ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี ด้วยปริมาณความช่วยเหลือที่มาจากทั่วสารทิศ และไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เช่นนี้ หากองค์กรที่เป็นแกนในการให้ความช่วยเหลือหลัก ขาดความสามารถในการบริหารจัดการด้วยการวางกลไกและระบบรองรับให้มีประสิทธิภาพอย่างทันท่วงที ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาในอีกมิติหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในเอกสาร “Integrated Flood Risk Management in Asia” ที่จัดทำขึ้นโดย ADPC (Asian Disaster Preparedness Center) และ UNDP ได้ให้ข้อแนะนำในการเข้าให้ความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินแก่องค์กรหรือภาคีต่างๆ ไว้อย่างน่าสนใจ และคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งแก่องค์กรที่เป็นแกนในการให้ความช่วยเหลือหลัก และองค์กรเข้าร่วมให้ความช่วยเหลือในระดับต่างๆ ไม่มากก็น้อย จึงนำมาเรียบเรียงเผยแพร่ไว้ ณ ที่นี้

Do

 -พิจารณาบริจาคตามคำร้องขอถึงสิ่งที่ต้องการ และหลีกเลี่ยงการบริจาคสิ่งที่ไม่ต้องการ

 -คิดให้ถ้วนถี่ถึงความสามารถที่จะตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างมีประสิทธิผล ตามคำขอความช่วยเหลือที่เป็นไปตามการประเมินความต้องการขั้นต้น

 -กรณีที่ประสงค์จะช่วยเหลือ จัดเตรียมการตอบสนองให้ทันต่อเวลา

 -จดบันทึกการให้ความช่วยเหลือต่างๆ พร้อมสำหรับการชี้แจงถึงการตัดสินใจและการดำเนินการ

 -ทำการประเมินและวิจัยที่นำไปสู่โครงการซึ่งตอบความต้องการและอยู่ในวิสัยที่องค์กรสามารถดำเนินการ

 -สร้างโครงข่ายและสื่อกลางสำหรับการติดต่อสื่อสารและสนทนาสองทาง

 -พิจารณาผลกระทบโครงการที่มีต่อสิ่งแวดล้อม จัดทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่าทำลายสิ่งแวดล้อม

 -คำนึงถึงความสัมพันธ์และโครงสร้างอำนาจที่เป็นอยู่ในชุมชน 

 -ให้แน่ใจว่าโครงการ ตอบสนองความต้องการของผู้รับ มิใช่ความต้องการของผู้บริจาค

 -เข้าร่วมรับฟังหารือระดับองค์กรกับภาคีต่างๆ ขึ้นทะเบียนกับองค์กรช่วยเหลือหลักเมื่อมีคำขอ แลกเปลี่ยนข่าวสาร รวมทั้งการให้ความร่วมมือ การทำงานร่วมกัน และการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนดำเนินงานในส่วนที่เป็นไปได้

 -เคารพในวิถีแห่งวัฒนธรรม และพิจารณาถึงข้อกระทบที่มีกับโครงการ อาทิ การออกแบบศูนย์อพยพ รูปแบบที่พักพิง

 -คำนึงถึงความเป็นอยู่ของบุคลากรผู้ให้ความช่วยเหลือ ในด้านการพักผ่อน สุขภาพจิต อาหาร น้ำ

 -ตระเตรียมปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงานจำเพาะหน้าให้ลุล่วง เช่น การนำอุปกรณ์ที่ถูกต้องและบุคลากรที่มีทักษะเหมาะสม เข้าให้ความช่วยเหลือ

Don’t

 -อย่าสันนิษฐานถึงสิ่งที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือเอาเอง

 -อย่าตอบสนองเพื่อหวังโฆษณาออกสื่อ

 -อย่าไปถึงล่าช้า โดยเฉพาะการค้นหาผู้ประสบภัยและให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ เป็นกรณีที่ต้องรีบดำเนินการในช่วงแรกของภาวะฉุกเฉิน

 -อย่าใช้ภาวะฉุกเฉินเป็นช่องทางในการโฆษณาหรือส่งเสริมการดำเนินการขององค์กร เช่น การจำลองเหตุการณ์ช่วยเหลือเพื่อการประชาสัมพันธ์

 -อย่าจัดให้มีกิจกรรมความช่วยเหลือตามสิ่งจูงใจที่เป็นตัวเงินจากองค์กรผู้บริจาค และองค์กรที่บริจาคไม่ควรแข่งขันกันเพียงเพื่อสนองความต้องการที่เห็นเด่นชัดสุดในพื้นที่

 -อย่ากันผู้ประสบภัยออกจากการวางแผนกิจกรรมให้ความช่วยเหลือและการฟื้นฟู

 -อย่าสร้างมูลเหตุแห่งความตึงเครียดในชุมชน ด้วยการละเลยโครงสร้างเชิงสังคม

 -อย่าเร่งรัดให้ดำเนินโครงการ โดยปราศจากการประเมินอย่างเข้มงวด

 -อย่าเพิกเฉยคำขอของภาครัฐ และองค์กรช่วยเหลือหลักในพื้นที่ประสบภัย

 -อย่าละเลยบรรทัดฐานทางวัฒนธรรม อาทิ เครื่องแต่งกายที่เหมาะสม จารีตทางศาสนา และวิถีชีวิตตามประเพณี

 -อย่าให้บุคลากรผู้ให้ความช่วยเหลือ ตรากตรำทำงานจนเกินขีดจำกัด

 -อย่าหลงลืมว่าการจัดหาหรือให้ความช่วยเหลือนั้น เป็นจุดมุ่งหมายหลักที่มีต่อผู้ประสบภัย

 

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/home/details/business/ceo-blogs/pipat/20111027/415983/อะไรควร-ไม่ควร-ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย.html

 

aphondaworathan