รายงาน CSR แบบไม่... เออเร่อ โดย ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ
บทความรายงาน CSR แบบไม่... เออเร่อ โดย ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ
การจัดทำรายงานความยั่งยืน เป็นเครื่องมือหนึ่งที่องค์กรนำมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ตลอดจนใช้ในการสื่อสารการดำเนินงานขององค์กรให้กับผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอก อาทิ การให้ภาพที่ชัดเจนแก่องค์กรในการสร้างผลกระทบหลักทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ทราบถึงบริเวณหรือส่วนงานบริหารโดยรวมที่ควรได้รับการปรับปรุง การดึงดูดบุคลากรใหม่ๆ เข้าร่วมงาน การพัฒนาความสัมพันธ์กับพนักงานที่มีอยู่เดิม ลดช่องว่างระหว่างองค์กรและกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย การเพิ่มชื่อเสียง ความภักดีและการยอมรับจากสังคม
สำหรับกรอบการรายงานที่เป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก และได้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการจัดทำรายงานความยั่งยืน ก็คือ Global Reporting Initiative (GRI) ซึ่งถือเป็นรูปแบบของการรายงานที่ให้ความสำคัญด้านกระบวนการ (Process) และเปิดเผยผลการดำเนินงานที่เป็นผลลัพธ์ (Outcome) หรือผลกระทบ (Impact) มากกว่าการรายงานเชิงโครงการ (Project) ที่รายงานเพียงผลการดำเนินงานในเชิงผลผลิต (Output) หรือมุ่งหวังแค่ให้ได้เอกสารรายงานเพียงเพื่อเผยแพร่เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ การจัดทำรายงานตามกรอบ GRI จะสามารถเพิ่มคุณค่าของรายงานที่ส่งมอบไปยังกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ รวมทั้งยังสามารถใช้กระบวนการรายงานเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนิน CSR ขององค์กรให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างเป็นรูปธรรม
ในช่วงสิบปีหลังจากที่กรอบการรายงานในรุ่นแรกๆ ได้มีการประกาศใช้ นับจนถึงปี 2543 มีองค์กรเพียง 44 แห่งที่ได้จัดทำรายงานความยั่งยืนตามกรอบดังกล่าว ปัจจุบันได้มีองค์กรที่เผยแพร่รายงานความยั่งยืนเท่าที่สำรวจได้ ทั้งสิ้นราว 3,503 แห่ง มีรายงานที่เผยแพร่แล้วรวมกว่า 8,573 ฉบับ ในจำนวนนี้ เป็นรายงานที่จัดทำตามกรอบการรายงานของ GRI จำนวน 8,209 ฉบับ หรือคิดเป็นร้อยละ 95.75 ของจำนวนรายงานทั้งหมด (จากฐานข้อมูลของ GRI ณ วันที่ 8 ก.พ. 55)
แนวโน้มที่กำลังก่อตัวขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก คือ การที่รัฐบาลและหน่วยงานที่ดูแลตลาดทุนของแต่ละประเทศได้ส่งเสริมการจัดทำและเผยแพร่รายงานความยั่งยืนของกิจการต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ และบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการออกกฏหมายและกฎระเบียบให้การจัดทำรายงานความยั่งยืนเป็นข้อกำหนด จากเดิมที่เป็นไปตามความสมัครใจของกิจการ
จากงานวิจัยของ Ioannis Ioannou (London Business School) และ George Serafeim (Harvard Business School) ในหัวข้อ The Consequences of Mandatory Corporate Sustainability Reporting (2011) ได้สำรวจประเทศที่ส่งเสริมให้มีการจัดทำรายงานความยั่งยืนจากข้อมูลของ 58 ประเทศ พบว่า มีประเทศที่กำหนดให้มีการรายงานโดยออกเป็นกฎระเบียบและกฏหมายแล้วจำนวน 17 ประเทศ ที่เหลือยังคงเป็นการแนะนำให้มีการรายงานตามแนวปฏิบัติด้วยความสมัครใจ และหลายประเทศในจำนวนนี้ มีแนวโน้มที่จะออกเป็นข้อกำหนดในอนาคต
ตัวอย่างของประเทศที่มีนโยบายของรัฐในการส่งเสริมการจัดทำรายงานความยั่งยืน และ/หรือการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (environment) สังคม (social) และการกำกับดูแล (governance) หรือที่เรียกรวมกันว่า ESG ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน เดนมาร์ก สหภาพยุโรป ฝรั่งเศส อินเดีย เยอรมนี นอร์เวย์ สเปน สวีเดน และสหรัฐอเมริกา ส่วนตลาดหลักทรัพย์ที่มีบทบาทนำในการผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ก็มี บราซิล จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ปากีสถาน และแอฟริกาใต้ เป็นต้น
สำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำลังจัดทำคู่มือการจัดทำรายงานแห่งความยั่งยืน (Guidelines for Sustainability Reporting) เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนและองค์กรธุรกิจที่สนใจทั่วไปในการใช้เป็นแนวปฏิบัติในการจัดทำรายงาน โดยคู่มือฉบับนี้ได้อ้างอิงวิธีจัดทำรายงานตามกรอบของ GRI โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การนิยามเนื้อหา คุณภาพ และกรอบการรายงาน ส่วนที่ 2 มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูล ส่วนที่ 3 เกณฑ์วิธีตัวชี้วัด และส่วนที่ 4 การวัดระดับรายงานของ GRI โดยมีกำหนดที่จะเผยแพร่ภายในปี 2555 นี้
| องค์การแห่งความริเริ่มว่าด้วยการรายงานสากลหรือ Global Reporting Initiative (GRI) เป็นองค์กรอิสระที่ก่อตั้งโดยเครือข่าย Ceres (ออกเสียงว่า “series”) และสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ในรูปแบบโครงการระหว่างปี 2540 ถึงกลางปี 2545 มีสำนักงานอยู่ที่เมืองอัมสเตอดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดย GRI ทำงานในลักษณะเครือข่ายที่มีผู้มีส่วนได้เสียประมาณ 20,000 ราย จากภาคธุรกิจเอกชน ภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคการศึกษาและสมาคมการค้าต่างๆจากกว่า 80 ประเทศ ช่วยเหลือร่วมมือกันพัฒนากรอบและแนวการดำเนินงานจัดทำรายงานความยั่งยืน จนปัจจุบันมีการประกาศแนวปฏิบัติหลักหรือ Core Guidelines สำหรับการจัดทำรายงานเป็นรุ่นที่ 3.1 หรือ G3.1 |
ที่มา: http://pipatory.blogspot.com/2012/02/csr.html


















